โครงงาน เรื่อง การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่กลีเซอรีนชาเขียว และสบู่กลีเซอรีนชาเขียวกับน้ำกุหลาบ
วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
โครงงาน เรื่อง การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว และสบู่ชาเขียวกับน้ำกุหลาบ
โครงงาน
เรื่อง
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่กลีเซอรีนชาเขียว
และสบู่กลีเซอรีนชาเขียวกับน้ำกุหลาบ
นาย
ปวรวุธ วิสุทธิเสน เลขที่ 9 ม. 5/4
นาย
อภิราม รสหานาม เลขที่ 13 ม. 5/4
น.ส. อัจฉรา
เจริญกิจกังวาน เลขที่ 25 ม. 5/4
น.ส.
จารุวรรณ เทพวุฑฒิ เลขที่ 27 ม. 5/4
น.ส.
อธิชา สิงหนาท เลขที่ 35 ม. 5/4
นำเสนอ
อาจารย์
ศุจิรัตน์ คิดอยู่
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรวิชา
is
ภาคเรียนที่
1 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียน
ชิโนรสวิทยาลัย
บทคัดย่อ
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่องสบู่กลีเซอรีนสมุนไพร จัดทำขึ้นเพื่อ
เรียนรู้วิธีการทำสบู่ เพราะสบู่เป็นของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทุกวันเราอาบน้ำต้องใช้สบู่เพื่อการขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย
ซึ่งคนส่วนมากมักจะเลือกสบู่ที่สามารถทำความสะอาดได้ดีมากๆ
จนไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับผิวในภายหลัง
ปัจจุบันสบู่มีมากมายหลายชนิดให้เราเลือกใช้
ตามความเหมาะสมและความชอบของแต่ละบุคคล บางชนิดก็ผสมสมุนไพรบางชนิดก็ผสมสารเคมี
เช่น Triclocarban เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ซึ่งผู้ใช้บางรายอาจเกิดอาการแพ้สารเคมีหากใช้บ่อยเกินไป แต่เรารู้จักสบู่เหล่านั้นดีเพียงไร
และจะมีสักกี่คนที่ใส่ใจในรายละเอียดว่าสบู่แต่ละก้อนมีส่วนประกอบสำคัญอะไรบ้าง
สบู่ที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบสำคัญที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อผิว
ซึ่งนอกจากจะทำให้สบู่ที่ได้ทำความสะอาดผิวได้ดีแล้วยังสามารถบำรุงผิวได้อีกด้วย
ทั้งนี้สบู่เป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นประจำทุกวัน
หากเราคัดสรรสบู่ที่ดีมีคุณภาพจะทำให้เร มีสุขภาพผิวของที่ดีอยู่คู่กับเราไปตลอดนานเท่านาน
ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยการผลิตสบู่สมุนไพรใช้เองน่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ลดค่าใช้จ่าย
ช่วยเหลือเศรษฐกิจประชาชนชุมชนได้มาก
เพราะวัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นวัสดุที่ผลิตเองในประเทศเกษตรกรสามารถปลูกพืชน้ำมัน
และสกัดน้ำมันโดยวิธรการง่ายๆนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก
นอกจากนี้ในแหล่งชุมชนที่มีไขมันสัตว์เหลือใช้
อีกทั้งสมุนไพรหาได้ในประเทศมากมายการผลิตสบู่ผสมสมุนไพรจึงเป็นการสนับสนุนการนำสารจากวัสดุธรรมชาติที่ผลิตได้เองมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าราคาถูกประหยัดและใช้ได้ง่ายจึงน่าที่จะผลิตสบู่สมุนไพร
เพื่อนำมาใช้ชำระล้างทำความสะอาดร่างกายและของใช้หรือใช้ซักเสื้อผ้าแทนผงซักฟอกได้
ก่อนที่จะทำการผลิตสบู่สมุนไพร
จำเป็นต้องศึกษาวิธีการผลิตอย่างละเอียดก่อนเพื่อความปลอดภัยและและจะได้สบู่ที่มีคุณภาพดี
กิตติกรรมประกาศ
ในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์
เรื่องสบู่สมุนไพรสารสกัดชาเขียว และ สารสกัดชาเขียวกับน้ำกุหลาบ จากกลีเซอรีนธรรมชาติ
ในครั้งนี้ คณะผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ได้รับความอนุเคราะห์จาก อาจารย์
ศุจิรัตน์ คิดอยู่ ที่ให้คำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับการเปรียญเทียบของประสิทธิภาพของสบู่
และ ให้คำแนะนำในเรื่องของการทำสบู่ วิธีการทำสบู่อย่างถูกต้อง และ ถูกวิธีตลอดจนอธิบายถึงการเตรียมอุปกรณ์ต่าง
ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการนำมาทำสบู่และสามารถนำไปลงมือปฏิบัติจริง
ในการจัดทำโครงงานชิ้นนี้และได้คำแนะนำปรึกษาในการทำโครงงานอย่างเป็นกันเอง
รวมทั้งแนวคิดตลอดจนข้อบกพร่องต่างๆที่ต้องแก้ไข
ทำให้คณะผู้จัดทำสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำโครงงานชิ้นนี้ได้
จนโครงงานเรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
คณะผู้จัดทำโครงงาน
วันที่
14/08/60
สารบัญ
เรื่อง
หน้า
บทคัดย่อ
ก
กิตติกรรมประกาศ
ข
บทที่ 1 บทนำ
1
1.1 ความเป็นมาของโครงงาน
1.2 วัตถุของโครงงาน
1.3 สมมติฐาน
1.4 ขอบเขตของโครงงาน
1.5 ประโยชน์ที่ได้รับ จากโครงงาน
บทที่
2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
3
บทที่
3 วิธีดำเนินงานโครงงาน/วิธีดำเนินการวิจัย
7
บทที่
4 ผลการทดลอง
12
บทที่
5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
15
บรรณานุกรม
16
ภาคผนวช
17
บทที่ 1
บทนำ
1.ความเป็นมาของโครงงาน
สบู่ คือ
สิ่งที่ทำมาจากไขผสมสารเคมีหลายชนิดเข้าด้วยกัน และ ผลิตใช้กันมาก
ในปัจจุบันมนุษย์ใช้สบู่ขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ
และ สบู่ที่ทำจากสมุนไพรสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
คนส่วนใหญ่จะรู้จักสบู่สารเคมีมาก และ
ใช้สบู่ที่ผสมสารเคมีกันทุกครัวเรือน ใช้ทุกวัน
ทุกครั้งที่ต้องการทำความสะอาดร่างกาย เพราะในสบู่มีสารที่สามารถฆ่าเชื้อโรค และ
แบคทีเรียได้เป็นอย่างดี
ฉะนั้นจึงต้องมีการผลิตสบู่สมุนไพรจากธรรมชาติ (สารสกัดชาเขียว และ
น้ำกุหลาบ) โดยสบู่นั้นต้องสามารถขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีกลิ่นหอมจากธรรมชาติ มีสีสันสวยงาม และ มีฟองที่นุ่ม
เพื่อดึงดูงความสนใจของผู้อุปโภค
ที่สำคัญต้องเผยแผ่ความรู้เกี่ยวกับคูรสมบัติของสมุนไพรที่นำมาทำสบู่ถึงคุณสมบัติที่ดีไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2.
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อศึกษาการทำสบู่สมุนไพร
2. เพื่อศึกษาประโยชน์ของสารสกัดชาเขียว
และ สารสกัดน้ำกุหลาบ
3.
เพื่อส่งเสริมการใช้สบู่สมุนไพรในปัจจุบัน
3.สมมติฐาน
1. สบู่กลีเซอรีนผสมสมุนไพร
สามารถทำความสะอาดผิวกายได้
2. สบู่กลีเซอรีนที่ผสมสมุนไพรสารสกัดชาเขียว
และ สารสกัดน้ำกุหลาบ ช่วยให้ผิวสะอาด ขจัดสารพิษ ป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิว
และดูชุ่มชื่นขึ้น
3. สบู่กลีเซอรีนธรรมชาติไม่มีสารเคมีใดๆจึงไม่เป็นโทษต่อร่างกาย
ตัวแปรต้น สบู่สมุนไพรสารสกัดชาเขียว และสารสกัดน้ำกุหลาบ จากกลีเซอรีนธรรมชาติ
ตัวแปรตาม ความสะอาดชุ่มชื่นของผิวกาย ป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิว
ตัวแปรควบคุม ปริมาณสบู่ผสมสมุนไพรจากสารสกัดชาเขียว และ
จากสารสกัดชาเขียวกับสารสกัดน้ำกุหลาบ
4.ขอบเขตของโครงงาน
ส่วนผสมของสมุนไพร
คือ สูตรสารสกัดชาเขียว และ สูตรสารสกัดชาเขียวกับสารสกัดน้ำกุหลาบ
5.
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
1.จะได้รู้ส่วนประกอบของสบู่ และ
วิธีการทำสบู่สมุนไพร
2.
จะได้ศึกษาประโยชน์และข้อดีของสารสกัดชาเขียว และน้ำกุหลาบ
3. ให้ความรู้ บอกข้อดี และ
ส่งเสริมการใช้สบู่สมุนไพรในปัจจุบัน
บทที่ 2
เอกสาร และ
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาเรื่องประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว
สบู่น้ำกุหลาบ ผู้ศึกษาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฏีและหลักหารต่างๆจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องต่อไปนี้
สบู่ เป็นสิ่งที่ใช้ในการทำความสะอาดร่างกาย เช่น การอาบน้ำ การล้างมือ สบู่จะช่วยละลายไขมัน ทำให้การชำระล้างสะอาดมากขึ้น
สบู่ (soap) คือสารเคมีที่เกิดจากการทำปฏิกิริยากันระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์(ด่าง,โซดาไฟ, (NaOH,) และน้ำมันที่มาจากสัตว์หรือพืชมีส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง)
ในอัตราส่วนที่ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10ใช้ชำระล้างร่างกายควบคู่กับการอาบน้ำ
ทำมาจากไขมันสัตว์ผสมกับน้ำหอม โซดาไฟ และวัตถุดิบอื่นๆ
สบู่ก้อน คือส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง)
ในอัตราส่วนที่ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10 (ในเอกสารจดแจ้งของ
อย.ให้ผู้ผลิตสบู่ก้อนระบุว่ามีค่า ph ไม่เกิน 11) กรดหรือกรดไขมัน เช่นน้ำมันพืช ไขมันสัตว์ เบส เช่นโซดาไฟ โดยทั่วไปอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมคือเมื่อผสมกันแล้วควรจะเหลือกรดไขมันอยู่ประมาณ5% หากไม่มีเครื่องมือในการวัดค่า pH ให้เก็บสบู่เอาไว้อย่างน้อย 15-30 วันเพื่อให้ค่า pH ลดลง อยู่ในอัตราที่เหมาะสม
2.1สารสกัดชาเขียว
อุดมไปด้วยสารโพลีฟินอลที่ชื่อว่า EGCC ( Epigallo Catechin ) มีคุณสมบัติในการล้างสารพิษ
คือ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธ์แรงสูง ( Superpowerful Antioxdant ) ทำให้ช่วยป้องกันการก่อตัวของอนุมูลอิสระ
ซึ้งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรทั้งยังเพิ่มความชุ้นชื่นและความเปร่งปลั่งให้กับผิวหน้าและช่วยลดร่องรอยความอ่อนล้าของผิวรอบดวงตาและยังลดการบวมของเปลือกตาและถุงใต้ตา
ผิวจะนุ่มนวลและดูสดชื่นขึ้น
สาร EGCC ในทางเคมีจัดเป็นสารโพลีฟินอลชนิดหนึ่งที่มีการวิจัยกันอย่างกว้างขวางและหลายการวิจัยก็พอว่าสาร
EGCC ดังกล่าวนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ได้แก่
1.มีส่วนช่วยในขบวนการ การกำจัดไขมันโคเรสเตอรอลในหลอดเลือดซึ่งทำให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจาการอุตันของไขมันในหลอดเลือด
2.ช่วยในการขับสารพิษและสารอนุมูลอสระจึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็งและความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกาย
3.ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์
ประโยชน์ของชาเขียว
1.ต้านอนุมูลอิสระ
เนื่องจากมีสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลังในปริมาณสูง
สารแอนติออกซิแดนซ์นี่สามารถขับกับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด
2.ป้องกันโรคมะเร็ง EGCC สามารถลดเปอร์เซนต์การก่อตัวเป็นมะเร็งที่ดีที่สุด นักวิทยาศาสตร์
เชื่อว่า Catechins มีบทบาทสำคัญ คือ
ช่วยลดภาวะเป็นพิษของสารก่อมะเร็งบางชนิดแทรงแซงกระบวนการเกาะยึดของสารก่อมะเร็งต่อ
DNA ของเซลล์ปกติสรรพคุณที่เป็นสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลัง
เสริมการทำงานกับสารแอนติออกซิแดนซ์และ Enzymes อื่นๆ
และจำกัดการลุกลามของเซลล์เนื้องอก
2.2สารสกัดกุหลาบ
ชื่อทั่วไป
สารสกัดน้ำดอกกุหลาบ (Rose Water) ชื่อทางทฤกษาศาสตร์ (Rose
hybrida) ชื่อว่า INCI Name Rose Damascena flower water
สารสกัดดอกกุหลาบมีคุณสมบัติเป็น
anti septie และ anti bacteria และยังสามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิวได้อีกด้วยจึงนิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ทั้งในกลุ่ม
Toner และ Moisturizer ในการฟื้นฟูบำรุงเซลล์ผิวที่เสียให้คืนสู่ความสมบรูณ์แข็งแรงนอกจากนี้สารสกัดดอกกุหลาบยังอุดมไปด้วย
สารที่มีประโยชน์ในการบำรุงผิวหน้าและผิวกายช่วยกระกระชับรูขุมขนไม่ให้เปิดกว้างหลักจากล้างหน้า
ช่วยเพิ่มความชุ้นชื่นให้แก่ผิวและช่วยปรับสมดุลของสภาพผิว
ฟื่นฟูเซลล์ผิดภายในให้แข็งแรงเป็น Anti-Oxidant ช่วยลดการเกิดริ้วรอยจุดด่างดำ
และช่วยให้ผิวพรรณ์สว่างสดใสสุขภาพดี สีผิวจุดด่างดำค่อยๆจางลง
กลีบกุหลาบ อุดมไปด้วย วิตามินซีแคโรทิน
วิตามินบี วิตามินเค แคลเซียม และแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายของระบบเลือด
เรียกว่า วิตามินเกลือแร่ต่างๆที่ร่างกายต้องการนั้นมีอยู่ครบถ้วนในกลีบกุหลาบ
เช่น โปแตสเซียม ที่จำเป็นต่อระบบหัวใจ แร่ธาตุทองแดงที่ร่างกายต้องการเพิ่มกระบวนการสร้างเม็ดเลือดและใช่ในกระบวนการต่อมไร้ท่อ
ไอโอดีน ที่ร่างกายต้องการสำหรับการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
สารสกัดจกากลีบกุหลาบ ( Rose
Crysta ) มีสารสำคัญ คือ EuGeniin และ
Rose Polyphenol Eugeniin แก้ปัญหาผดร้อน ผื่นแดง แพ้ระคายเคืองจาการสารเคมีช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับผิว
Rose polyphenol ยับยั้งเอมไซม์ไฮนาลูโรนิเดส (Hyaluroidase) ที่ทำลายไฮยาลูโลนิกแอซิค
มนผิวชั้นลึกจึงเสมือนเป็นเกาะปกป้องให้ถูกทำลายน้อยลง
ช่วยยึดอายุและปรับโครงสร้างให้ผิวแข็งแรง เต่งตึง แน่นฟิต กระชับ อุ้มน้ำ
ไม่ยุบตัว หย่อนคล้อยไปตามวัยตงสภาพผิวแรกรุ่น อ่อนเยาว์
ลดการผลิตเม็ดลีเมลานินที่ทำให้ผิวคล้ำเสียหม่อนหมอง รอยกระ และรอยดำจากสิว
ผิวจึงขาวใสขึ้นทั้งผิวหน้าและผิวกาย ลดอาการอักเสบของผิวที่ไหม้ บวม รอยแดง
จากรังสียูวีในแสงแดด
2.3
กลีเซอรีน
คือ ของเหลวที่ไม่มีสี
ไม่มีกลิ่นมีความหนืด และมีรสหวาน โดยปกติมาจากน้ำมันของพืชซึ่งโดยทั้วไป คือ
น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม
ประโยชน์ของกลีเซอรีนบริสุทธิ์
สามารถนำไปประยุกติ์เป็นส่วนช่วยหล่อลื่นเหมือนมอยซ์เจอไรเซอร์
เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้นเมื่อสัมผัสกับอากาศ
ซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว
ขจัดความสกปรกที่ฝังแน่นไม่ให้อุดตันรูขุนขน รวมทั้งปลอดภัยต่อผิวหนัง
และเนื้อผ้าทุกชนิด
กลีเซอรีน
ได้รับความสนใจและนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ด้วยการทำยาเหน็บทวาร
ใช้เป็นยาระบายและยังสามารถใช้เป็นยาเฉพาะทางผิวหนัง หลายชนิด รวมถึงโรคผิวหนัง
ผื่น แผลไฟลวก แผลกดทับ และบาดแผลของมีคม
เนื่องจากกลีเซอรีนสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องได้
บทที่ 3
วิธีดำเนินการโครงงาน
วิธีดำเนินการโครงงาน
ในการทำโครงงานเรื่อง “การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว”
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/4 ประจำปีการศึกษา 2560
มีวิธีดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ขั้นตอนเตรียมการ
ในการจัดทำโครงงานมีขั้นตอนเตรียมการดังนี้
1.ประชุมอภิปรายการจัดทำโครงงาน
แต่งตั้งประธาน รองประธาน เลขาธิการและเหรัญญิก
2.กำหนดชื่อเรื่องโครงงานในหัวข้อการเปรียบเทียบสบู่
ซึ่งสมาชิกได้มีความเห็นร่วมกันแต่งชื่อเรื่องในการจัดทำโครงงาน คือ “การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว”
3.ตั้งวัตถุประสงค์ตามแผนการดำเนินงาน
เพื่อเป็นเป้าหมายในการศึกษา ซึ่งผู้จัดทำได้ตั้งวัตถุประสงค์ดังนี้
1.เพื่อศึกษาการทำสบู่ชาเขียว
และสบู่ชาเขียวกับน้ำดอกกุหลาบ
2.อยากทราบถึงประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว
3.เปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างสบู่ชาเขียว กับสบู่ชาเขียวน้ำดอกกุหลาบ
4.มอบหมาย
และแบ่งภาระงานให้กับสมาชิก
รายชื่อผู้ร่วมงาน
สมาชิก
|
นาย ปวรวุธ วิสุทธิเสน
|
มีหน้าที่พิมพ์ข้อมูล
|
สมาชิก
|
นาย อภิราม รสหานาม
|
มีหน้าที่พิมพ์ข้อมูล
|
สมาชิก
|
น.ส. อัจฉรา
เจริญกิจกังวาน
|
จัดหาข้อมูล
|
สมาชิก
|
น.ส. จารุวรรณ
เทพวูฑฒิ
|
เสนอโครงงาน
|
สมาชิก
|
น.ส. อธิชา สิงหนาท
|
ทดลองทำสบู่
|
2.วัตถุและอุปกรณ์
2.1
กลีเซอรีน
2.2
มีด
2.3
เขียง
2.4
ถ้วย 3 ใบ
2.5
ช้อนคน
2.6
น้ำหอม
2.7
ภาชนะ/พิมพ์ที่ใส่สบู่
2.8
สารสกัดชาเขียว
2.9
สารสกัดน้ำดอกกุหลาบ
3. วิธีการดำเนินการ
3.1
ประชุมวางแผน
3.2
ออกปฎิบัติการ
3.3
ค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
3.4
ปฎิบัติการผลิตสบู่ทั้ง2สูตร
3.5
ทดสอบประสิทธิภาพของสบู่ทั้ง2สูตร
3.6
สรุปผลและรายงานโครงงาน
ขั้นตอนการผลิตสบู่
และ สบู่ชาเขียวและน้ำดอกกุหลาบ
1.หั่นกลีเซอรีนเป็นชิ้นเล็ก
ๆ
2.นำกลีเซอรีนใส่หม้อ ต้มจนละลายหมด
3.ผงชาเขียวชง
4.สารสกัดน้ำกุหลาบ
5.ใส่สารสกัดทั้งหมด
5.1
ถ้วยกลาง สารสกัดชาเชียวกับสารสกัดน้ำกุหลาบ
5.2
ถ้วยขวามือ สารสกัดชาเขียว
6.
บรรจุใส่พิมพ์
6.1
ซ้ายสูตรสารสกัดชาเขียวกับ สารสกัดน้ำกุหลาบ
6.2
ขวาสูตรสารสกัดชาเขียว
บทที่ 4
ผลการทดลอง/วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล
จากการวิจัยเรื่อง สบู่น้ำดอกกุหลาบและชาเขียวจากกลีเซอรีน
ผลปรากฏว่า สบู่ที่ทำมาจากกลีเซอรีน
ผสมน้ำดอกกุหลาบและชาเขียวต่างชนิดกัน คือ “น้ำดอกกุหลาบ” และ “ชาเขียว” สามารถทำความสะอาดผิวกายต่างกันเพราะที่นำมาผสมแตกต่างกัน
มีสรรพคุณต่างกัน มีความหอมแตกต่างกันตามที่นำมาผสม และสบู่น้ำดอกกุหลาบและชาเขียวจากกลีเซอรีนที่ทำเอง
มีค่า pH ตรงตามมาตรฐาน คือ มีค่าได้ เท่ากับ 8 (หรือเบส) โดยสบู่ทั้งสองมีค่า pH เท่ากัน
ซึ่งเป็นค่าที่ตามมาตรฐานที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายกัน และค่า pH มีค่าเป็นกลางใกล้เคียงกับผิวพรรณของเรา
4.1การศึกษาการผลิตสบู่จากสารสกัดชาเขียวกับน้ำดอกกุหลาบ
จากการศึกษาการผลิตสบู่จากสารสกัดชาเขียวกับน้ำดอกกุหลาบ สามารถผลิตสบู่ได้2สูตร
สูตรที่1 สูตรสารสกัดชาเขียว
สูตรที่2
สูตรสารสกัดชาเขียวและน้ำดอกกุหลาบ
4.2ศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้กับสบู่ทั้ง
2 สูตร
จากแบบสอบถามความพึงพอใจจากประชากร
ชาย 15 คน
หญิง 20 คน
สูตรที่
1 สารสกัดชาเขียว
|
ดีมาก
(4)
|
ดี
(3)
|
พอใช้
(2)
|
ควรปรับปรุง
(1)
|
ค่าเฉลี่ย
|
1.รูปลักษณ์ภายนอกของสบู่
1.1สี-กลิ่น
|
9
|
21
|
3
|
2
|
3.05
|
2.การเกิดฟอง
|
7
|
4
|
18
|
6
|
2.342
|
3.ประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
|
6
|
25
|
4
|
0
|
3.057
|
4.ความนุ่มลื่นของผิวหลังใช้
|
10
|
22
|
3
|
0
|
3.2
|
5.ความยาก-ง่ายในการล้างสบู่
|
14
|
17
|
4
|
2
|
3.342
|
สูตรที่
2 สารสกัดสารชาเขียวกับน้ำดอกกุหลาบ
|
ดีมาก
(4)
|
ดี
(3)
|
พอใช้
(2)
|
ควรปรับปรุง
(1)
|
ค่าเฉลี่ย
|
1.รูปลักษณ์ภายนอกของสบู่
1.1สี-กลิ่น
|
8
|
21
|
4
|
2
|
3
|
2.การเกิดฟอง
|
3
|
7
|
17
|
6
|
2.08
|
3.ประเมินภาพในการทำความสะอาด
|
13
|
16
|
4
|
2
|
3.171
|
4.ความนุ่มลื่นของผิวหลังจาการใช้
|
7
|
24
|
4
|
0
|
3.085
|
5.ความยาก-ง่ายในการล้างสบู่
|
15
|
16
|
4
|
2
|
3.371
|
4.3การนำไปใช้งาน
การล้างมือ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่คณะผู้จัดทำได้ศึกษา ค้นคว้า และปฏิบัติ จนได้มาเป็นสบู่ เพื่อใช้ในการล้างมือให้สะอาดมากขึ้นกว่าการล้างน้ำเปล่าและยังทำให้ผิวชุ่มชื้น สดชื่นและฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันและลดการเกิดไข้หวัดต่างๆ
ที่ทำให้สุขภาพกายเจ็บป่วย และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
บทที่ 5
สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
1.สรุปผลการทดลอง
1.1
การทดลองเป็นที่น่าพึงพอใจของสมาชิกภายในกลุ่มและผู้ทดลองใช้
และได้ทราบผลลัพธ์จากการทดลองใช้สบู่สมุนไพรแต่ละสูตรว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
2.ปัญหาและอุปสรรคในการทดลอง
2.1 สมาชิกภายในกลุ่มมีเวลาว่างไม่ตรงกัน
2.2 สบู่มีสีเข้มขึ้นเมื่อได้รับความร้อนเป็นเวลานาน
ทำให้สบู่อาจจะมีสีที่แตกต่างกันออกไป
2.3 สบู่แข็งตัวเร็ว
ทำให้เวลาใส่พิมพ์สบู่อาจจะมีลายที่ไม่สวยงาม
3.
ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
3.1 การนำสมุนไพร พืช
หรือดอกไม้ชนิดอื่นๆมาเป็นส่วนผสมในการทำสบู่
3.2 การนำส่วนผสมหรือสารชนิดอื่นๆ เช่น
กรดผลไม้ หรือวิตามินต่างๆ มาเป็นส่วนผสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย
และตรงจุดกับที่ผู้ใช้ต้องการ
3.3
นำผลการทดลองมาปรับปรุงแก้ไขจากแบบสอบถามที่เพื่อนประเมินให้ดียิ่งขึ้น
บรรณานุกรม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)